รู้จัก "ไรเดอร์ในยุคถัดไป" Nuro รถดิลิเวอรีไร้คนขับ /โดย ลงทุนแมน
ภาพที่ทุกคนเห็นว่ามีไรเดอร์คอยส่งอาหารดิลิเวอรีให้เรา
ภาพนี้อาจจะอยู่ได้แค่ในยุคนี้ก็เป็นได้
เพราะในอนาคตการดิลิเวอรีเหล่านี้ อาจทำได้โดยรถที่ไร้คนขับ
“Nuro” สตาร์ตอัปจากสหรัฐอเมริกา คือผู้พัฒนายานพาหนะไร้คนขับเพื่อรับส่งสินค้าแบบ “ดิลิเวอรี” โดยเฉพาะ
รถดิลิเวอรีไร้คนขับของ Nuro น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
การดิลิเวอรี เป็นเมกะเทรนด์ของโลก
รถไร้คนขับ ก็เป็นเมกะเทรนด์ของโลก
ดังนั้นเมื่อนำ การดิลิเวอรี + รถไร้คนขับ มารวมกันก็น่าจะเป็นซูเปอร์เมกะเทรนด์ที่กำลังมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว
โดยยานยนต์ไร้คนขับในเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จะถูกพัฒนาเพื่อการใช้งานใน 2 รูปแบบหลัก คือเพื่อรับส่งคนและขนส่งสินค้า
ซึ่งบริษัทที่เน้นพัฒนารถสำหรับรับส่งคน ก็มีผู้นำอยู่มากมาย อย่างเช่น Waymo ของ Alphabet, Zoox ของ Amazon และ AutoX จากประเทศจีน รวมไปถึงผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเรียกรถรับส่งอยู่แล้วอย่าง Uber
ส่วนบริษัทที่เน้นพัฒนารถสำหรับขนส่งสินค้า ก็มีผู้นำอย่างเช่น TuSimple, Aurora และ Embark ซึ่งล้วนเป็นรถบรรทุกไร้คนขับที่ใช้สำหรับส่งสินค้าจำนวนมากเป็นระยะทางไกล จากจุดเก็บสินค้าหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
นั่นจึงทำให้สตาร์ตอัปที่ชื่อว่า “Nuro” เลือกสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ด้วยการเน้นพัฒนารถไร้คนขับ เพื่อส่งสินค้าจากร้านค้าไปถึงมือผู้รับ อย่างเช่น ของสดจากซูเปอร์มาร์เกต อาหาร และพัสดุ ในรูปแบบบริการดิลิเวอรี
Nuro เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2016 หรือ 5 ปีที่แล้ว ที่เมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยคุณ Dave Ferguson และคุณ Jiajun Zhu
ซึ่งผู้ร่วมก่อตั้งทั้งคู่ เคยเป็นหัวหน้าทีมวิศวกรในโปรเจกต์พัฒนายานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Google ที่ภายหลังจดทะเบียนแยกเป็นบริษัทโดยใช้ชื่อว่า Waymo
ในปี 2017 Nuro ได้รับใบอนุญาตเพื่อทดสอบรถส่งของไร้คนขับในสนามทดลอง โดยในช่วงแรก Nuro เริ่มต้นพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เพื่อใช้กับรถยนต์พริอุสของโตโยต้า
หลังจากนั้น Nuro ค่อยเปิดตัวยานยนต์ไร้คนขับที่ออกแบบเองรุ่นแรก ที่ชื่อ R1 ในปี 2018 และพัฒนาต่อยอดเป็นรุ่นที่ 2 ที่ชื่อว่า R2 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2020
ที่น่าสนใจก็คือ ดีไซน์ยานยนต์ของ Nuro ที่ถูกออกแบบมาใหม่เพื่อการส่งสินค้าโดยเฉพาะ จึงไม่มีที่นั่งสำหรับคนขับ มีเพียงพื้นที่สำหรับบรรจุสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิได้
โดยตัวรถเป็นรูปทรงคล้ายกับเครื่องปิ้งขนมปังที่มีล้อขนาดเล็ก 4 ล้อ และขนาดกะทัดรัดกว่ารถยนต์ทั่วไป
ในเรื่องความปลอดภัย Nuro ได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยจำนวนมาก ตามมาตรฐานของยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ อย่างเช่น กล้อง 360 องศา, กล้องตรวจจับความร้อน, LiDAR และ Radar เพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวาง
นอกจากนี้ Nuro ยังถูกกำหนดให้ทำความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถให้บริการได้เฉพาะในช่วงที่สภาพอากาศปกติ เท่านั้น
โดย Nuro เริ่มทดสอบระบบและให้บริการในรัฐแอริโซนาและเท็กซัสก่อน ซึ่งเป็นเมืองแห่งการทดสอบยานยนต์ไร้คนขับอยู่แล้ว และ Nuro เลือกให้บริการในย่านที่อยู่อาศัยและแถบชานเมืองที่รถวิ่งไม่พลุกพล่าน
สำหรับเส้นทางการให้บริการดิลิเวอรีของ Nuro เริ่มขึ้นในปี 2018 โดยมี Kroger เชนซูเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่ มาร่วมมือพัฒนาระบบดิลิเวอรี เพื่อส่งสินค้าโดยเฉพาะของสดภายในวันที่สั่งเลย
ในปีนั้น Kroger เริ่มให้บริการดิลิเวอรีด้วยรถของ Nuro ที่เมืองสกอตส์เดล รัฐแอริโซนา ก่อนขยายไปที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ในช่วงต้นปี 2019
ซึ่ง Kroger ให้บริการโดยไม่กำหนดยอดซื้อขั้นต่ำและคิดค่าบริการแบบคงที่ที่ 5.95 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 197 บาท
หลังจากนั้น Walmart ซึ่งเป็นเชนร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุด ก็ได้เข้ามาร่วมมือกับ Nuro เพื่อให้บริการส่งสินค้าที่เมืองฮิวสตันเช่นกัน
ต่อมา Nuro ก็ได้ขยายตลาดไปสู่สินค้าประเภทอาหารพร้อมทานร่วมกับ Domino’s Pizza ในปี 2019
ก่อนที่จะเริ่มให้บริการส่งพิซซาแบบไร้คนขับได้จริง ที่เมืองฮิวสตัน เมื่อเดือนเมษายน ปี 2021 ที่ผ่านมา
ความร่วมมือกับ Domino’s Pizza นี้ก็นับว่าน่าสนใจและเป็นโอกาสขยายการให้บริการที่สำคัญ
ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่าในปี 2020 ที่ผ่านมา ชาวอเมริกันบริโภคพิซซาแบบดิลิเวอรีคิดเป็นมูลค่ากว่า 4.64 แสนล้านบาท ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งมาจากแบรนด์เดียว นั่นคือ Domino’s Pizza
รวมถึงในปี 2020 ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 Nuro ก็ได้ขยายการให้บริการไปสู่กลุ่ม Healthcare โดยร่วมมือกับ CVS เชนร้านขายยาขนาดใหญ่ เพื่อบริการขนส่งถึงบ้าน สำหรับยาที่มีใบสั่งยาจากแพทย์หรือเภสัชกร ในเมืองฮิวสตัน เช่นเดิม
นอกจากนี้ Nuro ยังใช้ประโยชน์ของรถดิลิเวอรีไร้คนขับเพื่อเข้าไปช่วยส่งอุปกรณ์การแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์อื่นที่สำคัญ ให้กับสเตเดียม 2 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นศูนย์รักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19
และล่าสุดในปี 2021 Nuro ก็ขยายมาสู่บริการขนส่งพัสดุ โดยร่วมมือกับ FedEx
การใช้บริการระบบดิลิเวอรีด้วยรถ Nuro ทำได้เหมือนการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของแต่ละเจ้า เช่น Kroger และ Domino’s Pizza เพียงแค่เลือกวิธีการขนส่งเป็นของ Nuro ซึ่งสามารถเลือกเวลารับสินค้าได้เองด้วย
เมื่อสั่งซื้อสินค้าไปแล้ว ก็จะมีแผนที่ให้ดูได้ว่ารถส่งของอยู่ตรงไหนและจะมีรหัสส่งมาให้
เพื่อใช้ปลดล็อกเพื่อหยิบของเมื่อรถส่งของมาถึง โดยใส่รหัสผ่านหน้าจอแบบสัมผัส
แม้ว่าในปัจจุบัน ลูกค้าที่สั่งสินค้าและใช้บริการดิลิเวอรีของ Nuro ยังต้องเสียค่าบริการอยู่ แต่ผู้บริหารมีเป้าหมายที่จะไม่คิดค่าบริการในอนาคต โดยจะเก็บค่าบริการจากร้านค้าที่เลือกใช้บริการของ Nuro เท่านั้น
ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลที่ว่าชาวอเมริกันกว่า 90% ชื่นชอบบริการรถดิลิเวอรีไร้คนขับ แต่ยังมีอุปสรรคที่สำคัญคือค่าบริการ
สิ่งที่น่าติดตามก็คือว่า บางบริษัทที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ Nuro ก็ยังร่วมพัฒนาระบบดิลิเวอรีไร้คนขับกับเจ้าอื่นด้วย อย่างเช่น Domino’s Pizza ที่เคยเป็นพาร์ตเนอร์กับ Ford มาก่อน และ Walmart ก็เลือกเป็นพาร์ตเนอร์กับสตาร์ตอัปอีกหลายเจ้า
แต่เมื่อเทียบกับพาร์ตเนอร์เหล่านั้น ยังคงมีเพียง Nuro ที่เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อบรรจุสินค้าโดยเฉพาะ
นอกจากผู้พัฒนารถไร้คนขับเพื่อส่งของเหมือนกันแล้ว คู่แข่งของ Nuro ก็ยังมีบริการส่งของไร้คนขับในรูปแบบอื่น อย่างเช่น หุ่นยนต์ส่งของมีล้อที่ชื่อ Scout ของ Amazon ที่มีขนาดเล็กกว่ารถของ Nuro และไม่ได้วิ่งบนถนน แต่วิ่งได้เฉพาะบนทางเท้า
ยังรวมไปถึงการขนส่งสินค้าด้วยโดรน ที่แม้จะเหมาะสำหรับใช้ขนส่งสินค้าบางประเภทที่แตกต่างกัน แต่ก็ถือเป็นพัฒนาการที่น่าจับตามอง
ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้ ก็ถือเป็นเรื่องปกติของการแข่งขันทางธุรกิจ แต่ที่สำคัญก็คือช่วงเวลาที่ผ่านมา Nuro ได้พิสูจน์มาในระดับหนึ่งว่าเป็นผู้นำของรถดิลิเวอรีไร้คนขับ
โดยรถรุ่น R2 ที่เปิดตัวช่วงต้นปี 2020 เป็นยานยนต์ไร้คนขับรุ่นแรก ที่ไม่มีพวงมาลัย คันเร่ง เบรก กระจกมองข้าง กระจกมองหลัง และส่วนประกอบอื่นตามมาตรฐานรถยนต์แบบดั้งเดิม ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย จากหน่วยงานภาครัฐ
หลังจากนั้นไม่นาน Nuro ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานด้านการขนส่งของรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้เริ่มทดสอบวิ่งส่งของได้จริง เป็นบริษัทที่ 2 ต่อจาก Waymo
และปลายปี 2020 Nuro ก็แซง Waymo ได้ด้วยการได้รับอนุญาตให้บริการรถส่งของไร้คนขับ “เชิงพาณิชย์” เป็นบริษัทแรกในแคลิฟอร์เนีย นั่นคือสามารถเริ่มเก็บค่าบริการขนส่งได้
ซึ่งที่ผ่านมา Nuro ก็สามารถระดมทุนไปได้ราว 49,725 ล้านบาท จากกองทุนชั้นนำอย่าง Baillie Gifford และ Fidelity Management and Research รวมไปถึง Softbank Vision Fund ซึ่งเป็นผู้ลงทุนหลักกว่า 60% ของเงินทุนทั้งหมดที่ Nuro ได้รับ จนปัจจุบัน Nuro ถูกประเมินมูลค่ากว่า 165,750 ล้านบาท
จากเรื่องราวการสร้างความแตกต่างให้ยานยนต์ไร้คนขับของ Nuro ก็ทำให้เราสรุปได้ว่านวัตกรรมรถไร้คนขับกำลังจะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตเรามากขึ้นในอนาคต และก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งในเมกะเทรนด์ ที่น่าจับตามอง
และเมื่อถึงเวลานั้นจริง ไรเดอร์ที่เป็นมนุษย์ซึ่งมีบทบาทต่อวงการดิลิเวอรีในปัจจุบัน ก็อาจเจอความท้าทาย อย่างยิ่ง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com/self-driving-delivery-vehicle-startup-nuro-how-it-works-2020-11
-https://techcrunch.com/2020/12/23/nuro-can-now-operate-and-charge-for-autonomous-delivery-services-in-california/
-https://techcrunch.com/2020/11/09/autonomous-delivery-startup-nuro-hits-5-billion-valuation-on-fresh-funding-of-500-million/
-https://www.theverge.com/2018/8/16/17693760/nuro-kroger-self-driving-delivery-scottsdale-arizona
-https://www.theverge.com/2018/1/30/16936548/nuro-self-driving-delivery-last-mile-google
-https://www.theverge.com/2020/4/22/21231466/nuro-delivery-robot-health-care-workers-food-supplies-california
-https://www.wired.com/story/vehicle-no-side-view-mirrors-legal/
-https://www.crunchbase.com/organization/nuro-2
同時也有16部Youtube影片,追蹤數超過4萬的網紅歐馬克,也在其Youtube影片中提到,訂閱我的頻道: http://bit.ly/OrMARC Facebook▶https://www.facebook.com/OrMarc Instagram▶http://instagram.com/marc_orange 工作連絡請來信▶[email protected] _...
fedex instagram 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
ธุรกิจคืนสินค้า กำลังเติบโตตามอีคอมเมิร์ซ /โดย ลงทุนแมน
เรื่องกวนใจที่ซ่อนอยู่ในความสะดวกสบายของการซื้อของออนไลน์
นั่นก็คือ ของที่ได้รับ ไม่เป็นไปตามที่คิด
เมื่อเป็นแบบนี้ เราก็คงต้องส่งคืนหรือขอเปลี่ยนสินค้า
ซึ่งร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ จะให้ลูกค้าขอคืนหรือเปลี่ยนของได้
แต่ขั้นตอนในการส่งของคืนนั้น กลับไม่ได้ง่ายเหมือนตอนกดสั่งซื้อ
จุดนี้เองก็ได้ทำให้เกิดธุรกิจ ที่ต้องการช่วยให้เราคืนสินค้าได้ง่ายและรวดเร็ว
แล้วธุรกิจที่ว่านี้มีหน้าตาอย่างไร
แล้วมันจะช่วยแบ่งเบาภาระของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายออนไลน์ได้มากขนาดไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รู้หรือไม่ว่าการซื้อขายของทางออนไลน์
โอกาสที่ลูกค้าจะขอเปลี่ยนหรือคืนสินค้า
มีมากกว่าการซื้อขายที่หน้าร้านโดยเฉลี่ยแล้ว เกือบ 4 เท่า
โดยเฉพาะสินค้าหมวดที่ได้รับความนิยมบนอีคอมเมิร์ซสูงสุด
นั่นก็คือเครื่องแต่งกาย ซึ่งก็เป็นเพราะว่าตอนตัดสินใจซื้อ
ผู้ซื้อจะเห็นเพียงแค่ภาพ ไม่ได้ลองสินค้าจริง
นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีโอกาสเกิดความผิดพลาดในด้านอื่นด้วย อย่างเช่น
สินค้าที่ได้ ไม่ใช่สินค้าที่สั่ง
สินค้าที่ได้ ใช้งานไม่ได้
สินค้าที่สั่งไป และจ่ายเงินไปแล้ว แต่เพิ่งได้รับแจ้งว่าของหมด
ทำให้ความสะดวกจากการซื้อของออนไลน์ ต้องแลกมาด้วยเรื่องกวนใจเหล่านี้
ซึ่งทางผู้ขาย ก็มักจะให้ผู้ซื้อส่งคืนสินค้า ขอคืนเงิน หรือขอเปลี่ยนสินค้าได้
ตัวอย่างของกระบวนการส่งคืนสินค้าที่คุ้นเคย
ก็จะเริ่มจากพรินต์แบบฟอร์มคืนสินค้า จากในเว็บไซต์ที่สั่งของ
จากนั้นก็แพ็กสินค้ากลับไปใหม่ กรอกและแปะแบบฟอร์มนั้นบนพัสดุ
ต่อมาเราก็ต้องออกไปส่งของคืนที่ไปรษณีย์ หรือจุดบริการส่งพัสดุเจ้าต่าง ๆ
ซึ่งจะต้องจ่ายเงินค่าส่งคืนเองหรือไม่นั้น
ก็แล้วแต่นโยบายของผู้ขายหรือผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม
และบางทีกว่าจะได้เงินคืน ก็ต้องรอเป็นสัปดาห์ หรือบางครั้งก็เป็นเดือน
ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะกับฝั่งผู้ซื้อเท่านั้น
แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่สร้างความยุ่งยากให้ฝั่งผู้ขาย เช่นกัน
แต่สำหรับในบางประเทศ อย่างเช่นสหรัฐอเมริกา
ขั้นตอนการส่งคืนสินค้า ทำได้ง่ายกว่านี้มาก และเริ่มมาตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
จริง ๆ แล้วบริษัทขนาดใหญ่อย่าง Amazon และ Walmart
ต่างมีช่องทางให้บริการรับคืนหรือเปลี่ยนสินค้าที่สะดวกสบาย เป็นของตัวเองอยู่แล้ว
ทั้งแพลตฟอร์มที่ใช้จัดการคืนสินค้า รวมถึงจุดรับคืนสินค้า
ไม่ว่าจะเป็นทางหน้าร้าน หรือจุดบริการที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ
แต่ใช่ว่าทุกคนจะซื้อขายของออนไลน์ โดยใช้บริการ Amazon และ Walmart
เพราะแต่ละแบรนด์ ต่างก็มีช่องทางขายสินค้าออนไลน์บนเว็บไซต์ตัวเองด้วย
หรือผู้ขายออนไลน์รายย่อย ที่ขายของผ่านแพลตฟอร์มอื่น ๆ
อย่างในแพลตฟอร์มที่ชื่อ Shopify ที่ให้ผู้ค้ารายย่อยสร้างหน้าเว็บไซต์ขายของได้เอง
กลุ่มผู้ขายผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้ จึงมีเพียงช่องทางขายและส่งสินค้าออกไป
แต่ยังขาดในเรื่องของบริการหลังการขาย
อย่างระบบการจัดการเมื่อลูกค้าขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า
และช่องว่างตรงนี้ ก็ถูกเติมเต็มด้วยธุรกิจที่ให้บริการซอฟต์แวร์ หรือ “SaaS”
ย่อมาจาก Software as a Service เทคโนโลยีที่ใช้จัดการเรื่องการขอคืนและเปลี่ยนสินค้า
รวมไปถึงบริการขนส่งในทิศทางย้อนศร หรือจากผู้ซื้อกลับมาสู่ผู้ขาย
เริ่มจากบริการหลักอย่างแรก
นั่นก็คือ “ซอฟต์แวร์สำหรับจัดการการคืนและเปลี่ยนสินค้า”
บริษัทซอฟต์แวร์เหล่านี้ จะเข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ต่าง ๆ
เมื่อผู้ขายสมัครใช้บริการ โดยจ่ายค่าบริการแบบรายเดือน
บนเว็บไซต์ของแบรนด์ในหน้าคืนหรือเปลี่ยนสินค้า ก็จะมีแบบฟอร์มให้ลูกค้ากรอก
และข้อมูลเหล่านั้นก็จะถูกบันทึกและจัดการด้วยระบบที่ใช้งานง่าย
หรืออย่างกรณีผู้ค้ารายย่อย ที่ใช้บริการหน้าเว็บไซต์ผ่าน Shopify
ทาง Shopify ก็ได้เป็นพาร์ตเนอร์กับซอฟต์แวร์ที่ให้บริการคืนสินค้าอยู่หลายเจ้า
เพื่อให้ผู้ค้าออนไลน์ได้เลือกใช้บริการคืนของตามที่ตัวเองสะดวก
และบริการหลักอย่างที่สองก็คือ “จุดรับสินค้าและระบบขนส่งแบบย้อนศร”
เมื่อผู้ซื้อเข้าไปกรอกแบบฟอร์มเพื่อคืนหรือเปลี่ยนสินค้า
ผ่านหน้าเว็บไซต์ที่ซื้อของมาแล้ว จุดเด่นสำคัญจะมีอยู่สองอย่าง
จุดเด่นอย่างแรกก็คือ ผู้ซื้อไม่ต้องแพ็กสินค้าใหม่ ไม่ต้องจ่าหน้าซอง
เพียงแค่นำตัวสินค้าที่จะส่งกลับ ไปส่งให้ตามจุดบริการที่สะดวก
ซึ่งมักอยู่ในทำเลที่คนผ่านไปมาบ่อยอยู่แล้ว
ที่เหลือก็เพียงแค่ปล่อยให้ระบบจัดการคืนของให้เรา
จุดเด่นอย่างที่สองก็คือ ผู้ส่งคืนสินค้าไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมใด ๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนั้น ผู้ที่คืนสินค้าก็จะสามารถได้รับเงินคืนโดยใช้เวลาไม่นาน อย่างช้าก็ 2-3 วันเท่านั้น
ส่วนผู้ขาย ก็จะได้สินค้าคืน ผ่านบริการขนส่งของผู้ให้บริการนั่นเอง
ตัวอย่างผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และขนส่งคืนสินค้าที่ได้รับความนิยมก็เช่น
Narvar
ก่อตั้งปี 2012 ระดมทุนไปได้ทั้งหมด 2,009 ล้านบาท
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้บริการ เช่น Shopify, Sephora, Keds, Bose, Dyson และ YETI
Returnly
ก่อตั้งปี 2014 ระดมทุนไปได้ทั้งหมด 948 ล้านบาท
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้บริการ เช่น Shopify และ Everlane
และเพิ่งถูกซื้อกิจการโดย Affirm ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มชำระเงินแบบซื้อก่อนจ่ายทีหลัง
Happy Returns
ก่อตั้งปี 2015 ระดมทุนไปได้ทั้งหมด 785 ล้านบาท
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้บริการ เช่น Shopify, Klarna, UPS และ FedEx
และเพิ่งถูกซื้อกิจการโดย PayPal หนึ่งในผู้ให้บริการแพลตฟอร์มชำระเงินที่ใหญ่ที่สุด
ซึ่งในแต่ละเจ้า ก็มีบริการอื่นเพิ่มเติมที่แตกต่างกันออกไป
ตามความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่หลากหลาย
มาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า การพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการขนส่งในฝั่งคืนสินค้า
ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหา และเติมเต็มวงจรของอีคอมเมิร์ซ
ที่นอกจากจะทำให้ผู้ซื้อประทับใจในการซื้อของออนไลน์มากขึ้นแล้ว
ผู้ขายเองก็ได้ประโยชน์จากระบบการจัดการสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
และเรื่องนี้ก็อาจทำให้มองในอีกมุมได้ว่า
การจะเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดที่มีการเติบโตสูง เช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
นอกจากเราจะเข้ามาแข่งในตลาดนี้โดยตรงแล้ว
เราก็สามารถมองหาจุดบกพร่องหรือข้อเสียที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
และนำมาสร้างเป็นอีกธุรกิจที่ตอบโจทย์ ได้เช่นกัน
เหมือนอย่างที่เหล่าธุรกิจผู้ให้บริการ “ส่งคืนสินค้า”
ที่กำลังเติบโตแรง ไม่แพ้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเลย นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://techcrunch.com/2021/05/13/paypal-acquires-returns-logistics-business-happy-returns/
-https://finance.yahoo.com/news/affirm-completes-acquisition-returnly-130000625.html
-https://sourceforge.net/software/compare/Happy-Returns-vs-Loop-Returns-vs-ReturnLogic-vs-Returnly/
-https://www.returnlogic.com/blog/shopify-returns-management-software
-https://www.crunchbase.com/organization/narvar
-https://www.crunchbase.com/organization/return
-https://www.crunchbase.com/organization/happy-returns
fedex instagram 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
“ตู้รับพัสดุสาธารณะ” กำลังเติบโตในต่างประเทศ /โดย ลงทุนแมน
การซื้อของออนไลน์ ได้กลายเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของใครหลายคน
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหากวนใจอยู่ไม่น้อย นั่นคือ “วิธีการรับพัสดุ”
ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน คอนโดฯ หรือแม้แต่ที่ทำงาน
ตรงจุดนี้เอง ก็ได้มีคนนำมาเป็นโจทย์และพยายามแก้ไขปัญหา
จนกลายมาเป็นธุรกิจที่กำลังมาแรง แล้วธุรกิจนั้นคืออะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
การซื้อขายของผ่านทางออนไลน์ ถือได้ว่าเข้ามาตอบโจทย์ใครหลาย ๆ คน
ที่ทำให้เราสามารถซื้อขายของที่ไหน ตอนไหนก็ได้ เพียงแค่ใช้ปลายนิ้ว
แต่เมื่อมาถึงขั้นตอนการกรอกที่อยู่สำหรับส่งพัสดุ
มันก็อาจเป็นเรื่องกวนใจสำหรับหลายคน และต้องคิดหนักเพราะไม่รู้ว่า
จะเลือกที่บ้าน วันธรรมดาก็ไม่มีคนอยู่ แถมบางทีก็โยนของมาไว้ในบ้านเลยทั้ง ๆ ที่ไม่มีคนรับ
จะเลือกที่คอนโดฯ แต่ตู้จดหมายก็เล็กมาก จะให้ส่งไว้ส่วนกลางก็กลัวของหาย
จะเลือกที่ทำงาน ก็อาจจะไม่สะดวกปลีกตัวออกมารับพัสดุ
นี่เลยเป็นที่มาของ Smart Parcel Locker หรือตู้รับส่งพัสดุอัจฉริยะ
ที่ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้น
โดยหน้าตาของเจ้าตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะนี้ มีลักษณะคล้ายกับล็อกเกอร์ที่เราคุ้นเคย
แต่ทำจากวัสดุที่แข็งแรง และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนากว่า
โดยช่องใส่ของจะมีขนาดต่างกัน เพื่อรองรับพัสดุที่มีขนาดหลากหลาย
ตั้งแต่ซองเอกสาร ไปจนถึงพัสดุขนาดใหญ่
แล้วทำไมถึงอัจฉริยะ ?
นั่นก็เพราะว่ามันมีหน้าจอดิจิทัลแบบสัมผัสติดตั้งอยู่ที่ตู้
คล้ายกับตู้ ATM ที่ด้านซ้ายและขวาล้อมด้วยตู้ล็อกเกอร์
เพื่ออำนวยความสะดวกในการยืนยันตัวตนเพื่อรับพัสดุ นั่นเอง
ในขณะเดียวกัน ตู้ล็อกเกอร์ประเภทนี้จะถูกติดตั้งตามจุดที่คนเข้าถึงได้สะดวก มีคนเดินทางผ่านไปมา
ไม่ว่าจะเป็นตามใต้คอนโดฯ หรืออะพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงาน หน้าร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เกต มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ปั๊มน้ำมัน
ที่สำคัญก็คือว่า แต่ละตู้ จะมีรหัสหรือชื่อที่สามารถระบุถึงตู้นั้นได้เลย
ทำให้เวลาเราจะกรอกที่อยู่สำหรับจัดส่ง เราก็สามารถเลือกหมายเลขหรือชื่อตู้ที่เราสะดวก
เป็นที่อยู่ในการรับพัสดุ แทนที่บ้านหรือที่ทำงาน
เมื่อพัสดุมาถึงตู้ เราจะได้รับการแจ้งเตือน รวมถึงได้รหัสผ่านมาด้วย
ทีนี้เราก็ไปยังตู้ที่เลือกไว้ กรอกรหัสผ่าน หรือสแกน QR Code ตรงหน้าจอดิจิทัล
จอจะแสดงผลว่าพัสดุเราอยู่ในช่องล็อกเกอร์ไหน ก็ไปเปิดหยิบของจากช่องนั้น
หากไม่ได้ไปรับของภายใน 2-3 วัน ของจากล็อกเกอร์ก็จะถูกส่งกลับไปยังโกดังนั่นเอง
ตู้รับส่งพัสดุอัจฉริยะเหล่านี้ ยังเปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน
บริเวณตู้ก็มีไฟส่องสว่าง มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ได้มากที่สุด
และในปัจจุบัน ก็ไม่ได้มีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการเลือกใช้บริการช่องทางนี้
จะเห็นได้เลยว่า ตู้รับส่งพัสดุอัจฉริยะ เข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นให้กับคนสั่งของได้มากทีเดียว เพราะเราสามารถเลือกเวลาและทำเลในการไปรับของได้ตามสะดวก แม้จะเป็นช่วงหลังเลิกงานหรือในวันหยุดก็ตาม และยังช่วยลดความกังวลว่าของจะหายหรือพังก่อนมาถึงมือ
ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวก็คือว่า จะใช้บริการตู้ล็อกเกอร์ไม่ได้
กับการส่งของที่มีขนาดหรือน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด
นอกจากนี้ ไม่ใช่เพียงคนรับส่งพัสดุเท่านั้นที่ได้ประโยชน์
เพราะส่วนกลางของคอนโดฯ หรืออะพาร์ตเมนต์ รวมถึงป้อมรปภ.ในหมู่บ้าน
ยังไม่ต้องแบกรับภาระในการรับของแทนลูกบ้านเช่นกัน
ที่สำคัญคือ ตัวบริษัทขนส่งที่ให้บริการล็อกเกอร์ในลักษณะนี้ ก็จะได้ประโยชน์
ลองคิดภาพว่า พนักงานส่งของในเส้นทางหนึ่ง
ต้องไปส่งของตามที่หมาย 30 แห่ง ในย่านเดียวกัน
ซึ่งต้องขับรถไปจอดส่งของ 30 จุด ตามแต่ละที่อยู่
แต่หากมีพัสดุ 15 ชิ้น ที่เลือกให้ส่งของที่ล็อกเกอร์เดียวกัน
เท่ากับว่า คนส่งพัสดุจะขับรถไปส่งของลดลงเหลือเพียง 16 จุดเท่านั้น
นั่นหมายความว่า ช่วยลดต้นทุนการส่งพัสดุไปได้มากทีเดียว
แล้วตู้ที่ว่านี้ เกิดขึ้นมานานขนาดไหนแล้ว ?
สำหรับตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะในต่างประเทศ ได้เริ่มใช้มากว่า 10 ปีแล้ว
โดยเจ้าแรก ๆ จะเป็นในแถบยุโรป ตั้งแต่ช่วงปี 2009 ยกตัวอย่างเช่น
InPost ในประเทศโปแลนด์, KEBA จากออสเตรีย และ Cleveron จากเอสโตเนีย
โดยทุกบริษัททำธุรกิจให้บริการด้านการขนส่งพัสดุอยู่แล้ว
ที่น่าสนใจก็คือว่า ตู้ล็อกเกอร์แบบนี้ มาเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
เมื่อบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Amazon
ได้พัฒนาและเริ่มติดตั้ง Amazon Locker ในปี 2011
ให้ลูกค้าที่สั่งของผ่าน Amazon เลือกที่อยู่รับพัสดุเป็น Amazon Locker ในทำเลที่สะดวกได้
ในขณะที่ปี 2017 Amazon ได้พัฒนาตู้ล็อกเกอร์ไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัว “Amazon Hub Locker”
จากที่แต่เดิมทำได้เพียงรับพัสดุ แต่ตอนนี้ก็ได้กลายมาเป็น
ที่อยู่ในการจัดส่งได้ ไม่ว่าการขนส่งด้วย Amazon เอง
หรือจะใช้บริการขนส่งของเจ้าอื่น เช่น FedEx หรือ UPS ก็ทำได้
และที่มากไปกว่านั้น Amazon Hub Locker ยังถูกใช้เป็นจุดส่งคืนสินค้า ที่สั่งมาแล้วและต้องการคืนสินค้าได้อีกด้วย
มูลค่าตลาดตู้รับส่งพัสดุอัจฉริยะทั่วโลกในปี 2020 อยู่ที่ 18,700 ล้านบาท
และคาดการณ์ว่าจนถึงปี 2028 จะมีมูลค่าตลาด 47,000 ล้านบาท
คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 12.2% ต่อปี
มากกว่าการเติบโตเฉลี่ย 11.1% ต่อปี ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
โดยตลาดนี้ ยังคงเติบโตมากที่สุดในยุโรป โดยเฉพาะโปแลนด์
ที่เพียงแค่เจ้าตลาดอย่าง InPost ก็ได้ติดตั้งตู้ล็อกเกอร์ไปแล้วกว่า 11,000 ตู้
รองลงมาคือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทั้ง Amazon, FedEx, UPS และ USPS
ได้มีการติดตั้งตู้รวมกันแล้วกว่า 70,000 จุด
สอดคล้องกับลำดับของประเทศ ที่มีการรับพัสดุผ่านช่องทางตู้ล็อกเกอร์มากที่สุด
เมื่อเทียบกับการส่งพัสดุทั้งหมด
โปแลนด์ 10.5%
สหราชอาณาจักร 4.5%
สหรัฐอเมริกา 3.7%
สำหรับในเอเชียเอง ก็มีหลายประเทศที่นำตู้รับส่งพัสดุอัจฉริยะนี้มาใช้แล้ว
ยกตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ อินเดีย จีน หรือเกาหลีใต้
สำหรับในไทย หากวันหนึ่ง ตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะนี้ ได้ถูกติดตั้งอย่างทั่วถึงแล้ว
คงทำให้เราสนุกกับการซื้อของออนไลน์มากขึ้นไปอีก
และเราก็น่าจะต้องจำที่อยู่เพิ่มเติม ที่ไม่ใช่ทั้งบ้าน คอนโดฯ หรือที่ทำงาน
แต่เป็นที่อยู่ล็อกเกอร์ในจุดที่เราสะดวก นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.fortunebusinessinsights.com/smart-parcel-locker-market-104718
-https://www.verifiedmarketresearch.com/product/global-smart-parcel-locker-market/
-https://bloq.it/parcel-lockers-how-smart-lockers-solve-last-mile-delivery-issue/
-https://www.marketwatch.com/press-release/smart-parcel-locker-market-size-share-by-sales-revenue-future-demands-growth-factors-and-emerging-trends-forecast-to-2028-fortune-business-insights-2021-02-14?tesla=y
-https://techcrunch.com/2017/07/27/amazon-launches-the-hub-parcel-delivery-lockers-for-apartment-buildings/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Amazon_Locker
-https://www.parcelmonitor.com/blog/the-future-of-e-commerce-ft-parcel-lockers/
-https://www.thailandpost.co.th/index.php?page=article_detail&addon=product&group_id=563&topic_id=11487&language=en
fedex instagram 在 歐馬克 Youtube 的最佳解答
訂閱我的頻道: http://bit.ly/OrMARC
Facebook▶https://www.facebook.com/OrMarc
Instagram▶http://instagram.com/marc_orange
工作連絡請來信▶barleyorange@yahoo.com.tw
_更多說書影片_ https://goo.gl/7viXT4
_給妳/你的有用提醒_ http://bit.ly/2UpUrjx
#馬克讀書會 #窮查理的普通常識
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/MjJjVRYOKys/hqdefault.jpg)
fedex instagram 在 Apple Austen Youtube 的最讚貼文
第一次,头一天下单第二天拿到包裹,给uniqlo这次的派送速度点个赞(当然还有我22刀的fedex运费哈哈。没有买特别多热门单品,也给大家做个参考。第一次做开箱try on,还是挺好玩的。
身上的连体裤:https://rstyle.me/n/dff4yxb6g77 (26)
黑色羊绒打底:https://rstyle.me/n/dfbgtub6g77
项链:https://rstyle.me/n/de7febb6g77
(use [apple10] to get 10% off your order)
Uniqlo U直达:https://rstyle.me/n/dff4yqb6g77
现在很多单品都oos了,但是经验告诉我,一般之后会restock几次的,大家可以关注一下。
-----------------------------------------------------------------------------------
Disclaimer:
This video is NOT sponsored, some of the links above are affiliate links. Items noted with (*) was gifted.
大家点击链接购买的话,我会有几个%的commission,但是不影响大家的购买价格。标注(*)的都是品牌赠送,其余均为自费购买。感谢大家的支持!
?来这些地方找我玩儿哈⬇️
▹微信公众号 talkAppletalks (LaPomme)
▹Instagram: @appleappleausten
▹Weibo:@HeyApple说
▹Email:appleausten920@gmail.com
-----------------------------------------------------------------------------------
▹其他
相机:Canon 70D
vlog相机:Canon G7x
编辑视频: Final Cut Pro X
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/-SA-iLD47EQ/hqdefault.jpg?sqp=-oaymwEYCKgBEF5IVfKriqkDCwgBFQAAiEIYAXAB&rs=AOn4CLC4c9bQRTWD43_rqM38EvUYnVgiEQ)
fedex instagram 在 Alvinist / 艾爾文的生活紀錄 Youtube 的最佳解答
親愛的艾草們,艾爾文回來啦!
第二季的「艾爾文的生活紀錄」正式開始。
同時《親愛的艾爾文時間》這個單元也將重新開啟。
期待全世界的艾草一起寫信來互動。
►《親愛的艾爾文時間》是什麼?
這是一個提供艾草們手寫信件來與艾爾文互動的單元。
每幾個月,或特別的日子,我們會收集大家的來信,並以直播的方式唸出大家的信件。
► 寄送地址
【中文】
23599 中和宜安郵局
第 171 號信箱
【英文】
P.O.BOX 171 Zhonghe Yi-an
New Taipei City 23599 Taiwan (R.O.C)
► 要寫什麼?
什麼都可以,只要信件的開頭是「親愛的艾爾文」即可。
可以寫怎麼認識艾爾文、怎麼知道這個頻道、為什麼喜歡這個頻道、想問的問題、明信片、小禮物等等。
► 下次的《親愛的艾爾文時間》是什麼時候?
農曆過年期間。
► 注意事項
- 由於是郵政信箱,因此只能收郵局寄送的東西,包含平信、掛號、大包、小包、快捷等等郵局系統的寄送方式。
- 民間快遞無法投遞郵政信箱,如 DHL、FEDEX、新竹物流、黑貓等等。
- 如果必須使用民間快遞的話,請私訊與艾爾文聯絡,我們來想辦法。
- 如果寄送食物或無法久放的東西,請私訊告知,艾爾文將儘快去取件避免壞掉。
★★★★★★★★
▶行動派艾草▶ 首波會員募集中
►「行動派艾草」是什麼?
這是 YouTube 推出的「定期型群眾募資」。
俗氣的說,就是:用錢支持喜歡的創作者。
每個月 75 元(台灣的用戶),讓創作者可以無憂無慮(如果付費會員夠多的話)的創作。
YouTube 將抽取三成費用,艾爾文可以從每位會員中大約獲得 50 元。
► 如何加入?❤❤❤
點選以下網址,綁定信用卡即可:
https://www.youtube.com/channel/UC735qllSAAlqQbRdzOksi2g/join
► 我是外國艾草,可以加入嗎?
大部分地區都可以,新馬一帶似乎尚未開放此功能。
請注意,各地區收費標準不一樣,由 YouTube 決定。
例如美國是 USD 4.99 美元。
► 行動派艾草有什麼福利?
☑ 解鎖 YouTube 會員專屬討論專區,獲得獨家貼文。
☑ 獲得勳章,在貼文或直播中留言,用戶名稱旁會出現勳章。
☑ 首波會員(至 2019.01.30)贈送精美手作禮物。
☑ 每月會員專屬直播(2019 年一月起)。
☑ 偶爾會有會員限定抽獎。
☑ 參與年度艾草日(規劃中)。
* 首波會員禮將於二月份向各位會員索取寄送地址寄出。
►本集使用音樂►
Lifeline - Lvly
►艾爾文的社群 / 歡迎追蹤►
Instagram: http://www.instagram.com/alvinist
Facebook: http://www.facebook.com/alvinistvlog
Twitter: http://www.twitter.com/alvinist
Weibo: http://www.weibo.com/alvinist
Bilibili: https://goo.gl/CxC4ZX
愛奇藝: http://tw.iqiyi.com/u/1509259921
金馬影視平台: http://www.youthgoldenhorse.taipei
►我的器材 / My Gear►
相機 / Camera:
- Canon EOS R
- Canon EOS 80D
- GoPro Hero Black 7
鏡頭 / Lenses:
- Canon EF 16-35mm f/2.8L iii USM
- Canon EF-S 10-18mm f/4.5-5.6
- Canon EF-S 15-85mm f/3.5-5.6
- Canon Canon EF 50mm f/1.8
空拍機 / Drone:
- DJI Mavic 2 Pro
麥克風 / Mic:
- RODE Video Mic Pro+
- Deity S-Mic 2
- Deity D3 Pro
- Sennheiser EW 100 ENG G3
燈光 / Light:
- Aputure COB 120D
- Aputure LS-Mini 20D
- Aputure Amaran AL-M9
- Aputure Amaran AL-H198C
腳架 / Pod:
- JOBY Gorillapod
- iFootage Cobra 2 C180
- iFootage Komodo K5
滑軌 / Slider:
- SMARTTA Slider Mini (電動滑軌)
- 洋蔥工廠巧克力輕型滑軌(阻尼版)
- 洋蔥工廠 CHIPS 電動滑軌 37cm、100cm
三軸穩定器 / Gimbal:
- 飛宇 Feiyu AK4000
- 飛宇 Feiyu a2000
- 飛宇 Feiyu G6
- 飛宇 Feiyu WG2
►歡迎合作►
alviniststudio@gmail.com
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/1FogujaKTac/hqdefault.jpg)